กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกรับรู้เเละ อนุรักษ์บึงโขงหลงแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังได้บันทึกเรื่องราวของชุมชนที่ยังมีชีวิต

 

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง

แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 11,000 ไร่ เป็นโครงการเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตรในหน้าแล้งของกรมชลประทาน ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2523 และประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง เมื่อปี พ.ศ. 2525 นอกจากนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (Ramsar Site) ลำดับที่ 1,098 ของโลก (Wetland of International Importance) เมื่อปี พ.ศ. 2544 และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำลำดับที่ 2 ของประเทศไทย นอกจากนี้แล้ว ยังมีนกนานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์โดยเฉพาะนกเป็ดน้ำ ซึ่งใช้เป็นมาสค๊อตของจังหวัดบึงกาฬ ที่มีจำนวนมากในบึงโขงหลง

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ (Life Community Museum Bueng Kan) ณ หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต. หนองพันทา อ. โซ่พิสัย จ. บึงกาฬ หมู่บ้านเล็กๆ ของชุมชนที่เงียบสงบ โดยบ้านเรือนไทยหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัว ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ มาหลายเจเนอเรชั่นจนล่าสุด เมื่อลูกๆ หลานๆ แยกย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ จึงตัดสินใจนำบ้านเรือนไทยอีสานหลังนี้มาปรับปรุงให้เป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต มุ่งหมายให้เยาวชนและเด็กๆ รุ่นใหม่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของครอบครัวชาวอีสานในสมัยก่อน

พิพิธภัณฑ์ได้ปรับให้เป็นลานอเนกประสงค์ที่เน้นกิจกรรม เพื่อสนับสนุนชุมชน สังคม การมีส่วนร่วม และสร้างอาชีพรายได้ ในเชิงบูรณาการแบบยั่งยืน อาทิ เปิดพื้นที่ให้ชุมชนในท้องถิ่น นำอาชีพเสริมมาวางจำหน่าย ซึ่งในละแวกมี งานจักสาน การทอผ้า งานหัตกรรม ให้กับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและจับจ่าย นอกจากนี้ยังให้เด็กๆ ที่ชื่นชอบการวาดรูประบายสีมาช่วยกันเผยแพร่ชุมชนให้เป็นที่รู้จัก รวมไปถึงการเปิดเวทีให้ศิลปินและนักออกแบบจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ เน้นบริการวิชาการแก่สังคม มาแลกเปลี่ยนผลงาน หรือเป็นวิทยากรแนะนำการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยดีไซน์จากอาชีพของชุมชน เพื่อร่วมมือกันพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืน

ตารางกิจกรรม

26 ตุลา
19.30 รถออกาก ปตท bts สนามเป้า

27 ตุลาคม
8.00 ถึงบึงโขงหลง อาสาสมัคร แนะ นำตัว และ ฟังเรื่องราวทำไมจึงต้องอนุรักษ์บึงโขงหลง และ เหตุใดจึงขึ้นื่อว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก
9.00 ล่องเรือ นำกล้าไม้ไปปลูก และ ดูบัวแดง สองข้างทาง
12.00 กิจกรรมบันทึกเรื่องราสัตว์ป่าที่เราพบเจอที่บึง และ ที่สำคัญสัตว์ประจำถิ่น เช่น นกเป็ดน้ำ เล่นเกม เรียนรู้เรื่องสัตว์ต่างๆ
13.00 ทานอหารเที่ยงที่เราเตรียมไว้
14.00 กิจกรรมพัฒนนาเขต เก็บขยะโดยรอบ
15.00 บอกลาเจ้าหน้าที่ และ ออกเดินทางไปเล่นน้ำตกถ้ำพระ
17.00 เดินทางไปยังที่พักอำเภอหนองพันธา และ เข้าบ้านพัก
สามารถตลาดตอนเย็นที ชุมชน

28 ตุลา
6.00 ตื่นใส่บาตร
8.00 ทานอาหารเช้าที่เตรียมให้
9.00 เริ่มกิจกรรมบันทึกเรื่องราวชุมชนและ วิถีชีวิต โดยวิทยากร สุทธิพงษ์ สุริยะ ผู้ก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ เล่าว่า พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ แห่งนี้ได้นำศิลปะเข้ามาจัดการอย่างมีระบบ เพื่อให้เข้ากับวิถีเกษตรชุมชน
11.00 สรุปเรื่องราว และ บันทึกกิจกรรมทั้งหมด
12.00 เดินทางกลับกรุงเทพ
22.00 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
*** กำหนดการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ***

วิธีการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับเราชาว ONE FINE DAY
1. ผู้สนใจสามารถ In Box ส่งข้อมูลมาในเพจ ONEFINEDAY: https://www.facebook.com/onefinedayclub 
2. หลังจากส่งข้อความมาแล้ว ให้รอรับข้อความตอบกลับ 
3. หลังจากได้ตอบกลับแล้ว โอนเงิน 2200 บาท/คน มาที่บัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย เลขบัญชี 235-2-36290-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล หรือ ไทยพานิช 406-466738-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายสุธี วัฒนกุล 0423-3-1855-4
4. หลังจากโอนเงินแล้วให้กรอกรายละเอียดตามลิ้งด้านล่าง เพื่อ upload สลิป 
https://goo.gl/forms/0WM3frx6XtDRJiPX2 *
5..หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น กดเข้าร่วมในห้องกิจกรรมได้เลยคับ เพื่อรอประกาศรายชื่อได้เลยครับ

เพื่อนๆสามารถยืนยันการสมัครได้ภายในเวลา 3 วัน (ไม่นับรวมวันที่เราส่งข้อความให้) หากเกินเวลาที่กำหนด เราจะให้สิทธิ์ผู้สมัครท่านอื่นในลำดับต่อไป และเพื่อนๆยังสามารถถามสิทธิ์ได้อีกเรื่อยๆ ถ้าผู้สมัครยังไม่เต็ม
ขอบคุณเพื่อนๆที่สนใจ และหวังว่า จะได้พบกัน
ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเดินทางไปกับพวกเรา
#OFDClub
#วันสบายๆสไตล์OneFineDay

ติดต่อได้ที่ เบอร์ 0831919554
email: mongwin1123@gmail.com
line: navigatorsutee

สิ่งที่รวมในทริป
1. ค่ารถไปกลักรุงเทพ
2.เสื้อกิจกรรม 1 ตัว
3. อาหาร 2 มื้อ 
4. บ้านพัก 1 คืน
5. ค่าวิทยากร ค่าเรือ และ อุปกรณ์ทำอาสา
6. ประกันการเดินทาง
7. ค่าวิทยากรพิพัณธ์

รายละเอียดประกันการเดินทาง วงเงินในกรณีเสียชีวิต 100000 บาท
วงเงินรักษาพยาบาลไม่เกิน 10000 บาท

ความคุ้มครอง

-การประกันอุบัติเหตุช่วงสั้น

-คุ้มครองการเสียชีวิต
+การสูญเสียอวัยวะ และสายตา
+ค่ารักษาพยาบาล


ข้อตกลงคุ้มครอง



-ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกนภัยเสียชีวิต หรือสูญเสียมือ เท้า และสายตา

+ภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดอุบติหตุ
+หรือความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกันในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล หรือคลีนิค และเสียชีวิต หรือสูญเสีย มือ เท้า และสายตา เพราะความบาดเจ็บนั้น



การสูญเสียอวัยวะ


-การสูญเสียมือหรือเท้า : หมายความถึง
+การถูกตัดออกตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือ
+สูญเสียสมรรถภาพในการใช้งานของอวัยวะนั้นโดยถาวร

-การสูญเสียสายตา
+ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาได้ตลอดไป

การชดใช้ค่าสินไหม


-100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+เสียชีวิต


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา รวมกันตั้งแต่ 2 ชิ้น ขึ้นไป


-60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง

ค่าใช้จ่าย : 2200