ป่าชุมชนบ้านเขาราวเทียนทอง อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาราวเทียนทอง อ.เนินขาม และอ.หันคา จ.ชัยนาท มีพื้นที่มากกว่า 22,000 ไร่ สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณที่มีไผ่รวกเป็นพืชเด่น มีต้นไม้ขึ้นกระจัดกระจาย และหนาแน่นบางบริเวณ ส่วนไม้พื้นล่างมีหนาแน่น เช่น กระเจียว ข่า และเหล่าสมุนไพรนานาชนิด

สมัยก่อน ความรกทึบของป่าจริงในละแวกนี้ เคยเป็นที่กบดานของบรรดาอดีตนักเลงเก่าที่ชาวบ้านมักขึ้นต้นชื่อให้ว่า “เสือ” ป่าบ้านเขาราวเทียนทองเองก็มีเสือสองขาเหมือนกัน เมื่อ 50-60 กว่าปีก่อน ถ้าใครได้ยินชื่อ “เสือมเหศวร” ต้องพากันรีบปิดประตูบ้าน เพราะเสือมเหศวรนั้นคล้ายๆ กับโรบินฮู้ด คือ ชิงจากคนรวย เพื่อช่วยเหลือคนจน ทุกวันนี้ เสือมเหศวรเป็นเพียงชายชราที่ใช้ชีวิตสงบสุขที่บ้านไพรนกยูง อ.หันคา ภายใต้ชื่อจริงว่า “ศวร เภรีวงษ์”
ช่วงก่อตั้งชุมชนใหม่ๆ สภาพป่ายังอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าชุกชุม ชาวบ้านที่มาบุกเบิกพากันจับจองพื้นที่ทำมาหากินในป่า ตัดไม้ทำฟืนและเผาถ่านขาย แล้วยังมีคนจากข้างนอกเวียนเข้ามาหากินจากทรัพยากรของบ้านเขาราวเทียนทอง การใช้ประโยชน์จากป่าโดยขาดการจัดการ ทำให้ป่าเสื่อมโทรม สัตว์ป่าลดจำนวน และต้นไม้ใหญ่ก็ร่อยหรอลง

การเสื่อมโทรมของป่าทำให้ชาวบ้านที่ยากจน และอาศัยป่าเป็นแหล่งอาหารแหล่งรายได้ เริ่มเกิดความตระหนักในเรื่องการแก้ไขและคิดหาวิธีบริหารจัดการป่า โดยเริ่มจากกลุ่มคนเล็กๆ มาช่วยกันดับไฟป่า จากนั้นเริ่มขยายวงพูดคุย เกิดเป็นข้อตกลงในการจัดการป่าร่วมกัน

การใช้อย่างเดียวโดยไม่มีการจัดการที่ดี คงไม่เหลือไว้ให้ลูกหลานใช้ในอนาคต ผู้ใหญ่สายชล ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ จึงพูดคุยกับสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเพื่อหาทางตอบแทนป่า มีการเปิดเวทีหารือกับกลุ่มพ่อบ้าน เพื่อหาแนวทางรักษาแหล่งอาหารพื้นบ้านนี้ไว้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะดูแลวัตถุดิบที่เป็นทั้งอาหารและรายได้ และเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนไปในตัว

จึงมีการเปิดเวทีหารือกันและนำมาสู่การจัดตั้งคณะกรรมการป่าชุมชน เริ่มทำกิจกรรมอนุรักษ์ ได้แก่ การทำแนวกันไฟ การดับไฟป่า การปลูกต้นไม้เสริมและพืชอาหารในพื้นที่ว่าง การลาดตระเวนตรวจตราผืนป่า และสิ่งที่อาจจะถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการป่าครั้งแรกของป่าชุมชนในเมืองไทย ก็คือ การกำหนดช่วงเวลาการเก็บหาหน่อไม้ในป่ารวก โดยให้เดือนมิถุนายน-สิงหาคม เป็นช่วงเก็บหาหน่อไม้ แต่ละคนต้องไม่เก็บหน่อในกอซ้ำกัน และแต่ละคนที่เก็บหน่อ จะเก็บได้เพียง 3 ใน 4 เพื่อเหลือไว้เป็นหน่อเชื้อ พอถึงเดือนกันยายน ก็จะเป็นช่วงเวลา “ปิดป่า” ตามที่ชาวบ้านเรียกกันง่ายๆ แต่หมายถึงการปิดฤดูกาลเก็บหน่อไม้ เพื่อให้พืชอาหารชนิดนี้ได้มีโอกาสเติบโตในฤดูกาลต่อไป เป็นวิธีบริหารจัดการ “ฟู้ดแบงค์” ของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

สิ่งที่อาสาจะได้รับ
1. การเรียนการใช้ทรัพยากร
2.แนวคิดการอนุรักษ์
3. วิธีการฟื้นฟูป่า

ตารางกิจกรรม
5 ธค
7.00 ออกจากปั้ม ปตท สนามเป้า
10.00 ถึงที่ทำการป่าชุมชนเขาราวเทียนทอง
10.15 ฟังแนวคิดการจัดการทรัพยากร และ ป่าอยู่ร่วมกับชุมชน
11.00 เริ่มปลูกป่า ทำฝาย
13.00 ทานอาหารเที่ยงที่เราเตรียมไว้
14.00 เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
16.00 ออกจากป่า
17.00 กลับกรุงเทพ
20.00 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

*** กิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ***

*** อาสา นำถุงมือมาด้วยครับ ***

วิธีการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับเราชาว ONE FINE DAY
1. ผู้สนใจสามารถ In Box ส่งข้อมูลมาในเพจ ONEFINEDAY: https://www.facebook.com/onefinedayclub
2. หลังจากส่งข้อความมาแล้ว ให้รอรับข้อความตอบกลับ
3. หลังจากได้ตอบกลับแล้ว โอนเงิน 750 บาท/คน มาที่บัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย เลขบัญชี 235-2-36290-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล หรือ ไทยพานิช 406-466738-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล . ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายสุธี 0423-3-1855-4
4. หลังจากโอนเงินแล้วให้กรอกรายละเอียดตามลิ้งด้านล่าง เพื่อ upload สลิป
** https://forms.gle/b2DNeGLS6wPkKo12A **
5..หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น กดเข้าร่วมในห้องกิจกรรมได้เลยคับ เพื่อรอประกาศรายชื่อได้เลยครับ

เพื่อนๆสามารถยืนยันการสมัครได้ภายในเวลา 3 วัน (ไม่นับรวมวันที่เราส่งข้อความให้) หากเกินเวลาที่กำหนด เราจะให้สิทธิ์ผู้สมัครท่านอื่นในลำดับต่อไป และเพื่อนๆยังสามารถถามสิทธิ์ได้อีกเรื่อยๆ ถ้าผู้สมัครยังไม่เต็ม
ขอบคุณเพื่อนๆที่สนใจ และหวังว่า จะได้พบกัน
ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเดินทางไปกับพวกเรา
#OFDClub
#วันสบายๆสไตล์OneFineDay

ติดต่อได้ที่ เบอร์ 0831919554
email: mongwin1123@gmail.com
line: navigatorsutee

สิ่งที่รวมในทริป
1. ค่ารถไปกลับ
2. ค่าเสื้อกิจกรรม 1 ตัว
3. ค่าอาหาร 1 มื้อ
4. ค่าวิทยากร
5. ประกันการเดินทาง
6. อุปกรทำอาสา
7.ค่าปูน และ ขนปูน

 

รายละเอียดประกันการเดินทาง วงเงินในกรณีเสียชีวิต 100000 บาท
วงเงินรักษาพยาบาลไม่เกิน 10000 บาท

ความคุ้มครอง

-การประกันอุบัติเหตุช่วงสั้น

-คุ้มครองการเสียชีวิต
+การสูญเสียอวัยวะ และสายตา
+ค่ารักษาพยาบาล


ข้อตกลงคุ้มครอง



-ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกนภัยเสียชีวิต หรือสูญเสียมือ เท้า และสายตา

+ภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดอุบติหตุ
+หรือความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกันในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล หรือคลีนิค และเสียชีวิต หรือสูญเสีย มือ เท้า และสายตา เพราะความบาดเจ็บนั้น



การสูญเสียอวัยวะ


-การสูญเสียมือหรือเท้า : หมายความถึง
+การถูกตัดออกตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือ
+สูญเสียสมรรถภาพในการใช้งานของอวัยวะนั้นโดยถาวร

-การสูญเสียสายตา
+ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาได้ตลอดไป

การชดใช้ค่าสินไหม


-100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+เสียชีวิต


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา รวมกันตั้งแต่ 2 ชิ้น ขึ้นไป


-60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง

ค่าใช้จ่าย : 750