เนื่องจากทางกลุ่มเราต้องการที่จะลดช่องว่างระว่างระหว่างวัย ระหว่างผู้สูงอายุ กับ เด็กๆ เราจึงพาอาสามาเรียนรู้การทำของเล่นโบราณย้อนสมัยไปในช่วงที่ไม่มี internet นอกจากนี้ยังส่งต่อไปยังน้องๆ ชนเผ่าเพื่อที่จะเรียนรู้ธรรมชาติ เนื่องจากของเล่นที่ทำนั้นแฝงไปด้วยธรรมมะต่างๆ เป็นโอกาศอันดีที่ทางชุมชนมีงานประเพณี และ จีมีญาติพี่น้องชนเผ่ามารวมกัน เราจึงอยากสร้างการเรียนรู้ และ ทำของเล่นแจกน้องๆ กันแบบสดๆ ให้ได้เห็น และ ทำให้น้องๆอยากลองมาทำ

ขอบคุณ บทความจาก internet

พิพิธภัณฑ์เล่นได้…สัมผัสเรื่องราวเมื่อครั้งคุณตาคุณยายยังเด็ก

“พิพิธภัณฑ์เล่นได้” ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่จัดแสดงสิ่งของในประวัติศาสตร์เท่านั้น หากแต่เป็นพื้นที่ที่สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยมีของเล่นพื้นบ้านเป็นสื่อกลาง และช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้นำองค์ความรู้ ประสบการณ์ และทักษะความสามารถที่มีค่ามาถ่ายทอดให้กับเด็กๆ รุ่นหลัง ได้เรียนรู้เรื่องราวของวัฒนธรรมในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสานสัมพันธ์และลดช่องว่างระหว่างวัยได้เป็นอย่างดี

นอกจากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้ผู้สูงวัยต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษแล้ว ทางด้านจิตใจและสังคมก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน เมื่อคนหนุ่มสาวเลือกเดินทางเข้าไปทำงานในเมือง ชุมชนแห่งนี้จึงเหลือเพียงคนเฒ่าคนแก่กับเด็กๆ เท่านั้น ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่แตกต่างกันมากนี้ จึงส่งผลให้คนสองวัยสื่อสารกันไม่เข้าใจ และขาดการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ด้วยโจทย์ที่ท้าทายที่ว่า จะเชื่อมโยงคนสองวัยเข้าหากันได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการรวมตัวกันจัดตั้ง “กลุ่มคนเฒ่าคนแก่” ด้วยการชักชวนผู้สูงอายุในพื้นที่ให้ได้มาพูดคุยร่วมกัน จนพบว่าแต่ละคนต่างก็มีความถนัดและความสามารถในการประดิษฐ์ของเล่นพื้นบ้านจากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น และจากจุดเริ่มต้นนี้ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา กว่าจะค่อยๆ พัฒนามาเป็น “พิพิธภัณฑ์เล่นได้” เช่นทุกวันนี้

อาสาจะได้ วิธีการประดิษฐ์ไปจนถึงเรื่องราวที่แฝงมากับของเล่นแต่ละชิ้น ซึ่งบอกเล่าความเป็นมาและองค์ความรู้ในท้องถิ่น ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ ไปจนถึงเรื่องราวความทรงจำในอดีตเมื่อสมัยปู่ ย่า ตา ยาย ยังเป็นเด็กที่ทำของเล่นเหล่านี้เล่นกันเอง นอกจากนี้ ของเล่นบางชิ้นยังนำไปสู่การพูดคุยที่สอดแทรกเรื่องคุณธรรมและศีลธรรมในการใช้ชีวิต ขณะที่ของเล่นบางชิ้นก็ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต แต่เกิดขึ้นจากวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน ที่ถูกนำมาออกแบบเป็นชิ้นงานใหม่ เพื่อถ่ายทอดให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นภาพและเข้าใจเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ของเล่นคนเลื่อยไม้ หรือคนตำข้าว เป็นต้น

ประเพณีผีตาโขน บ้านห้วยน้ำขุ่นหนึ่งเดียวใน จ.เชียงราย

ชาวลั๊วะ ที่อาศัยอยู่ในอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จะมีพิธีอัญเชิญพระอุปคุตจากบริเวณสะดือน้ำประจำหมู่บ้าน มาประดิษฐานที่วัดห้วยน้ำขุ่นท่ามกลางเสียงตีกลองมองเซิงและชาวบ้านที่พากันออกมาโปรยข้าวตอกดอกไม้ ก่อนร่วมกันถวายข้าวพันก้อนแด่พระอุปคุต ตักบาตรพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ และถวายข้าวล้นบาตร ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงค่ำชาวบ้านจะนำดอกไม้ธูปเทียนเข้ามากราบไหว้กองทรายหลวงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กระทั่งกองฟืนหลวงที่ถูกนำมาซ้อนกันถูกจุดขึ้น แสงพลุไฟสว่างไสวท่ามกลางความมืด ขบวนอายกหรือผีตาโขนก็จะพากันออกมาเต้นร่ายรำรอบกองทรายหลวง เพื่อเฝ้าพระศพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังเสร็จพิธียังมีการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าจากหลายหมู่บ้าน เปิดด้วยการแสดงไหว้สาแม่ฟ้าหลวง รวมกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งไทยลั๊วะ ไทยลื้อ และไทยใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่า พระผู้ทรงสร้างชีวิตใหม่ให้กับชาวไทยภูเขาบนดอยตุง

ตารางกิจกรรม

10 ธค
8.30 น. ออกเดินทางจาก ปตท bts สนามเป้า
จุดรับที่สองตรงข้ามโรง กษาม
21.00 ถึงที่พัก ที่เชียงราย เข้านอน

11 ธค
8.00 ทานอาหารเช้าที่เราเตรียมให้ และ เข้าป่าไปหาวัสดุมาทำของเล่นเช่นไม้ไผ่ และ เรียนรู้ฝึกทักษะการทำของเล่นโดยคุณตาคุณยาย เพื่อนำไปใช้ในการสอนน้องๆ และ รู้ที่มาที่ไปของ ของเล่น
โดยจะมีทำคอปเตอร์ไม้ไผ่ และ ของเล่นอื่นอีกมากมาย

หลังจากเรียนรู้เสร็จทานอาหารเที่ยงที่เราเตรียมให้ และ เรียนรู้จนถึงช่วงบ่าย
15.00 เดินทางไปยังที่พัก และ เตรียมสรุปเรื่องที่เรียนมา
เตรียมตัวจัด บูธ ในงานผีตาโขนที่เชียงรายโดย อาสาสามารถนั่งทำของเล่นเพื่อแจกน้องๆในงาน หรือ สอนน้องๆในการทำของเล่น เนื่องจากวันนั้นจะมีเด็กๆชนเผ่า ลั้วะ และ ผู้คนที่อยู่บนดอยจะมาร่วมงาน เพื่อความบันเทิง และ รำลึกถึงสมเด็จย่า

12 ธค
8.00 ทานอาหารเช้าที่โรงแรม
และ เดินทางกลับ ในกรณีที่มีเวลาจะแวะ วัดร่องขุ่น
22.00-23.00 ถึงกรุงเทพโดยประมาณ

*** กิจกรรมนี้ค่าใช้จ่ายต่างหาก 500 บาท สำหรับให้ผู้สูงอายุ ในการพาเดินเข้า และ สอนทำของเล่น และ สมทบทุนเข้าชมรมผู้สูงอายุ ***

** กิจกรรมเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม **
*** มาถึงจุดนัดพบ เลทได้ไม่เกิน 20 นาทีถ้าจะมาเลท รบกวนโทรแจ้ง มิเช่นนั้นจะไม่รอ ***

****การเดินทางอาจจะเกิดความล่าช้าได้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและปัจจัยรอบข้าง ****

*** โรงแรมที่เราจัดให้ นอนห้องละ 2-3 คน ***

วิธีการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับเราชาว ONE FINE DAY
1. ผู้สนใจสามารถ In Box ส่งข้อมูลมาในเพจ ONEFINEDAY: https://www.facebook.com/onefinedayclub
2. หลังจากส่งข้อความมาแล้ว ให้รอรับข้อความตอบกลับ
3. หลังจากได้ตอบกลับแล้ว โอนเงิน 2600 บาท/คน มาที่บัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย เลขบัญชี 235-2-36290-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล หรือ ไทยพานิช 406-466738-5 ชื่อบัญชี นาย สุธี วัฒนกุล ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายสุธี วัฒนกุล 0423-3-1855-4
4. หลังจากโอนเงินแล้วให้กรอกรายละเอียดตามลิ้งด้านล่าง เพื่อ upload สลิป
* https://forms.gle/dVbLmWArr4i2jQseA *
5..หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น กดเข้าร่วมในห้องกิจกรรมได้เลยคับ เพื่อรอประกาศรายชื่อได้เลยครับ

เพื่อนๆสามารถยืนยันการสมัครได้ภายในเวลา 3 วัน (ไม่นับรวมวันที่เราส่งข้อความให้) หากเกินเวลาที่กำหนด เราจะให้สิทธิ์ผู้สมัครท่านอื่นในลำดับต่อไป และเพื่อนๆยังสามารถถามสิทธิ์ได้อีกเรื่อยๆ ถ้าผู้สมัครยังไม่เต็ม
ขอบคุณเพื่อนๆที่สนใจ และหวังว่า จะได้พบกัน
ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเดินทางไปกับพวกเรา
#OFDClub
#วันสบายๆสไตล์OneFineDay

ติดต่อได้ที่ เบอร์ 0831919554
email: mongwin123@gmail.com
line: navigatorsutee

สิ่งที่รวมในทริป
1. ค่ารถไปกลับ กรุงเทพ
2. ค่าที่พัก 2 คืน
3. ค่าอาหาร 3 มื้อ
4. ค่าบริจาคให้วัดห้วยน้ำขุ่น
5. ค่าเสื้อกิจกรรม
6.ค่าประกันการเดินทาง

*** กิจกรรมนี้ค่าใช้จ่ายต่างหาก 500 บาท สำหรับให้ผู้สูงอายุ ในการพาเดินเข้า หาวัสดุทำของเล่น และ สอนทำของเล่น และ สมทบทุนเข้าชมรมผู้สูงอายุ ***




รายละเอียดประกันการเดินทาง วงเงินในกรณีเสียชีวิต 100000 บาท
วงเงินรักษาพยาบาลไม่เกิน 10000 บาท

ความคุ้มครอง

-การประกันอุบัติเหตุช่วงสั้น

-คุ้มครองการเสียชีวิต
+การสูญเสียอวัยวะ และสายตา
+ค่ารักษาพยาบาล


ข้อตกลงคุ้มครอง



-ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกนภัยเสียชีวิต หรือสูญเสียมือ เท้า และสายตา

+ภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดอุบติหตุ
+หรือความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกันในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล หรือคลีนิค และเสียชีวิต หรือสูญเสีย มือ เท้า และสายตา เพราะความบาดเจ็บนั้น



การสูญเสียอวัยวะ


-การสูญเสียมือหรือเท้า : หมายความถึง
+การถูกตัดออกตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือ
+สูญเสียสมรรถภาพในการใช้งานของอวัยวะนั้นโดยถาวร

-การสูญเสียสายตา
+ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาได้ตลอดไป

การชดใช้ค่าสินไหม


-100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+เสียชีวิต


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา รวมกันตั้งแต่ 2 ชิ้น ขึ้นไป


-60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


+สูญเสียมือ เท้า และสายตา ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง

ค่าใช้จ่าย : 2600