“ถ้ามีเงินอยู่หนึ่งก้อน อยากเอาไปบริจาคให้เด็กหรือคนชรา” ถ้าต้องเลือกเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น

คำถามนี้ ผุดขึ้นมาในหัว หลังจากที่เราได้รับโจทย์จากอาจารย์ประจำวิชา ถึงโครงการอาสาที่เราต้องจัดทำขึ้นในอีก 1-2 เดือนนี้ ซึ่งเราได้สอบถามความเห็นจากเพื่อนๆ เพื่อนำไปสู่กลุ่มเป้าหมายในการจัดกิจกรรมอาสา คำตอบที่น่าประทับใจมาจากเพื่อนคนหนึ่ง ให้แนวคิดที่ดีมากๆไว้ว่า.. “เค้าเลือกที่จะนำเงินไปบริจาคให้กับเด็ก เพราะเมื่อเรามอบโอกาสดีๆให้กับเด็ก เด็กเหล่านั้นจะเติบโตขึ้นมา เป็นกำลังสำคัญเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนอื่นๆในสังคม และอาจเป็นกำลังสำคัญที่กลับมาพัฒนาระบบที่เอื้อต่อคนชราในอนาคต” ว้าววว เป็นแนวคิดที่ให้เพียง1ทาง แต่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่าในครั้งนี้เราจะจัดโครงการอาสาเพื่อเด็ก

จากการพิจารณาด้านพื้นที่ เราลงความเห็นกันว่าจะเลือกน้องๆที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยของเรามากที่สุด คือ น้องๆจาก “โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เพชรบุรี” ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า “พาน้องท่องวัง” เป็นกิจกรรมที่พี่ๆมหาลัย อาสาพาน้องไปเที่ยวชมพระราชวังจำนวน 2 แห่ง ซึ่งไม่เพียงแต่พาเที่ยวชม และให้ความรู้ด้านสถานที่สำคัญเท่านั้น เรายังมีกิจกรรมบัดดี้ คู่พี่-น้อง เป็นการจับคู่พี่1คน ดูแลน้อง1คน(อย่างใกล้ชิด) ให้พี่น้องได้สานสัมพันธ์และทำความรู้จักกันมากขึ้น

เมื่อถึงวันจัดกิจกรรม เราเดินทางด้วยรถบัสคันใหญ่ เปิดแอร์เย็นฉ่ำไปรับน้องๆที่โรงเรียน เมื่อไปถึงคณะคุณครูได้จัดแถวน้องๆเพื่อรอต้อนรับเราอยู่ก่อนหน้าแล้ว บรรดาพี่ๆจะมีชื่อเล่นเขียนใส่กระดาษห้อยคอไว้ เพื่อให้น้องๆรู้จักชื่อพี่ทุกคน ถ้าพร้อมแล้วก็โดดขึ้นรถกันเลย! สถานที่แรก ที่เราพาน้องไปคือ พระราชวังบ้านปืน ต่อด้วย พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เรามีไกด์ที่น่ารักและใจดี คอยอธิบายประวัติความเป็นมา และพี่ๆก็ทำหน้าที่พาน้องเดินชมโดยรอบ คอยชวนคุยให้น้องได้แชร์เรื่องราวต่างๆตลอดการเดินทาง.. เมื่อตะวันตกดิน เราพาน้องๆกลับสู่โรงเรียน ได้เห็นทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ที่ไม่อยากให้กิจกรรมนี้จบลง เรากอด จับมือ โบกมือลา กันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่รถบัสของเราจะขับออกมา “กลับมาหาหนูอีกนะพี่” เสียงตะโกนจากน้องผู้หญิงพร้อมคราบน้ำตาอาบแก้ม…

หลังจบกิจกรรม เรามีการประชุมสรุปโครงการในเย็นวันนั้น และต่างลงความเห็นเดียวกันว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจมาก เพื่อนๆต่างแชร์ให้ฟังว่า ครอบครัวของน้องบางคนมีฐานะดีมาก ที่บ้านมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดู แต่ติดแค่เพียงว่าน้องเป็นลูกเมียน้อย ชีวิตความเป็นอยู่จึงแตกต่างจากพี่ๆของเค้า บางคนมีพ่อ-แม่ครบสมบูรณ์ แต่ท่านไม่มีเวลาเลี้ยง ต้องทำงานหาเงิน ก็จะส่งเงินมาให้ใช้เป็นระยะๆ เมื่อปิดเทอมก็จะนั่งรถกลับไปหา บางคนถูกพ่อ-แม่ทำร้ายร่างกาย และบางคนก็กำพร้ามาตั้งแต่เกิด เราได้เรียนรู้ไปถึงเบื้องหลังในชีวิตของแต่ละคน ที่ต้องต่อสู้กับความลำบากในวัยเด็ก ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนเด็กทั่วไป ซึ่งบางเรื่องก็หนักเกินวัยที่เด็กควรรับรู้ สิ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดคือ ความรัก ความอบอุ่น การดูแล ใส่ใจ จากใครสักคนที่เค้าไว้วางใจ เพียงเท่านี้จริงๆที่เด็กคนหนึ่งปรารถนา และร้องเรียกหามาตลอดชีวิต

กิจกรรมนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่า การลงทุน (ความรัก) กับเด็กนั้น ไม่มีวันขาดทุน เพราะสิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมประชากร1คน ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพพร้อมด้วยคุณธรรม หากมีผู้ชี้นำที่ถูกต้อง-เหมาะสม เราไม่ต้องไปแข่งขันกับประเทศอื่น เพียงหันกลับมาดูแลหัวใจดวงน้อยๆให้ทั่วถึงก็เพียงพอแล้ว ซึ่งทุกคนในสังคมช่วยกันได้ มันไม่มีเหตุผลใดเลยที่เราจะไม่ทำกิจกรรมอาสา ถ้าสิ่งที่ได้รับมันจะทำให้เราอิ่มใจได้ขนาดนี้ พี่ๆขอกราบหัวใจที่แข็งแกร่งของน้อง และยินดีจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้น้องประสบความสำเร็จในอนาคต พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนค่ะ…

ชื่อกิจกรรมอาสา: พาน้องท่องวัง
องค์กรที่จัดกิจกรรม: คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการชุมชน ชั้นปีที่2
สถานที่: พระราชวังบ้านปืนและพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
วันและเวลา: วันที่ 22 มกราคม 2552 (08.30-17.00 น.)

#อาสาไม่สมัครเล่น
#VolunteerForSDGs
#อาสาสมัครเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน