มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตช่างสงสัย และเมื่อความสงสัยนั้นมีมากพอ มันจะผลักดันตัวเองให้ก้าวออกไปหาคำตอบ การค้นพบเรื่องราวใหม่ๆในจักรวาลก็มีต้นตอมาจากความสงสัยใคร่รู้ของมนุษย์นี่แหละ ความสงสัยในตัวตนของตนเอง ความหมายของการดำรงอยู่ คุณค่าของชีวิต และความสุขแท้จริงที่หลายคนต้องการ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นคำถามสำคัญสำหรับชีวิตเช่นกัน มีหลากหลายวิธีในโลกนี้ที่จะนำพาเราไปสู่คำตอบ  หนึ่งในเส้นทางที่ดีทางหนึ่งก็คืองานอาสาสมัคร  เพราะมันเป็นงานที่ได้ก้าวออกไปลองสิ่งใหม่ๆ ได้ติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์หลากหลายแบบ  ออกไปค้นหาวิธีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างออกไป และเมื่อเผชิญสถานการณ์ใหม่  องค์ความรู้และทักษะการรับมือสิ่งใหม่ๆจึงตามมา

งานอาสาที่ประทับใจมากงานหนึ่งคือการซ่อมแซมห้องเรียนเรือนแพ แก่งก้อ จ.ลำพูน ของเครือข่ายบ้านดินไทย เราพาตัวเองไปอยู่เหนือผืนน้ำเป็นเวลา 3 วัน อยู่กินกับธรรมชาติ ไร้สัญญาณมือถือ ไร้ซึ่งแสงไฟเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า  เป็นงานที่ใช้ทั้งแรงและเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนความคิด  ศึกษาวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ร่วมกับป่าและลำน้ำ  มันไม่ได้หยุดเพียงความคิดที่ว่าเขาทำได้อย่างไร แต่มันไปไกลถึงการพยายามทำความเข้าใจตัวตนของพวกเขาผ่านการใช้ชีวิต 3 วันตรงนั้น เมื่อเข้าใจก็นำมาซึ่งแรงบันดาลใจลุกโชนที่อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการศึกษาไทย

ต่อมาจังหวะชีวิตเหวี่ยงให้ได้เป็นครูอาสาเกื้อฝันเด็ก สอนวิชาการและทักษะชีวิตแก่เด็กบนดอยสูง เป็นเวลา 4 เดือนที่เรียนรู้อะไรเยอะมากจริงๆ  ทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งงานพัฒนาคนที่เคยรู้สึกว่ามันยากและไกลตัว ไม่กล้าคิดว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้  แต่เส้นทางชีวิตที่ผ่านมาหล่อหลอมให้เรากล้าท้าทายศักยภาพในตัวเอง  แม้ความรู้ที่มีจะจับฉ่ายและเหมือนลอยไปลอยมา  แต่ก็ไม่อยากให้มันสูญเปล่า และคิดว่าถ้าสามารถดึงแต่ละส่วนที่มีมาใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสมได้ล่ะก็มันจะเกิดประโยชน์แน่นอน  ดังนั้นจึงอยากลองสู้ให้สุดกำลังและปัญญาที่มีดูสักตั้ง  ทั้งเพื่อตัวเองและถ้ามันเกิดประโยชน์จริง มันก็จะเพื่อคนอื่นด้วย  คุณค่ามันมหาศาลมากพอจะลอง  และแม้จะล้มเหลวแต่การเรียนรู้ที่ได้มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม  จนเมื่อผ่านการทำงานนี้ รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปพอสมควร  แต่เดิมที่ไม่คิดจะทำได้และไม่กล้าทำ  ตอนนี้คิดแต่จะทำอย่างไรให้ดีขึ้น  ระบบคิดมันเป็นไปในแง่การพัฒนาต่อยอด อยากปรับปรุงสิ่งต่างๆอยู่เสมอ ที่ยิ่งกว่าภูมิใจคือเห็นเมล็ดพันธ์ที่หว่านไว้เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย มันเป็นขุมพลังชั้นเยี่ยมที่ทำให้สัมผัสถึงความสุขได้ง่ายมาก  มากกว่าชีวิตที่ไม่มีแรงบันดาลใจอะไรเลย  มันเป็นการค้นพบความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง  ค้นพบคุณค่าที่ก่อเกิดขึ้นในใจ และคุณค่าในตัวผู้อื่น  ค้นพบวิธีการที่จะเป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน  มันไม่ใช่การทำเพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์เด่นชัดในระยะอันสั้น  แต่เป็นการฝึกระยะยาวเพื่อการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง  แล้วสุดท้ายมันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เกินคาดด้วยตัวมันเอง นี่คือพลังที่ได้เรียนรู้จากงานอาสาสมัคร แน่นอนว่ามันเหนื่อยมากกับการจัดการอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้น  แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกเหตุการณ์ก็เป็นประสบการณ์  การมาเป็นครูที่นี่คงกลายเป็นความทรงจำที่เรารักและหวงแหนมากเรื่องหนึ่งในชีวิต และอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่นึกถึง

มนุษย์ตัวเล็กๆนั้นเลือกได้ว่าจะใช้พลังเพื่อการทำลายหรือสร้างสรรค์ เราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างการเปลี่ยนแปลงสังคมได้หากร่วมมือกันและให้เวลากับมันมากพอ  มันคือความหวังที่เราเริ่มเชื่อว่าคนไทยสามารถทำให้เป็นจริงได้  และที่ยิ่งไปกว่าการให้นั้น ทุกงานอาสามันได้ขัดเกลาและพัฒนาตัวตนจากภายในเสมอ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญหน้าและเรียนรู้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งมิใช่หรือ

โดย ณัทธร  อารยะกุล

  1. กิจกรรม “ตะลุยซ่อมแซมห้องเรียนเรือนแพ+หมออาสา แก่งก้อ จ.ลำพูน” อาสาบ้านดินไทย วันที่ 10-12 ธ.ค. 2559
  2. โครงการ “ครูอาสาเกื้อฝันเด็ก รุ่นที่ 7” มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก สถานที่-โรงเรียนบ้านห้วยแห้ง  อ.ปางมะผ้า  จ.แม่ฮ่องสอน  ระยะเวลา 5 มิ.ย. – 5 ต.ค. 2560