การเป็นจิตอาสาไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแค่เรามีใจรักที่จะทำ ทำแล้วได้อะไร หลาย ๆ คนอาจจะถาม เราก็อยากจะตอบไปว่า “ลองมาทำดูสักครั้ง” แล้วจะรู้ว่า ทำแล้วมีความสุขแค่ไหน การได้ทำอะไรที่เป็น ประโยชน์ต่อส่วนรวม ความสุขที่ได้กลับมา มันคือผลพลอยได้จากสิ่งที่ได้ทำ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็ได้แต่เรียนๆ แล้วก็ทำงาน ๆ ในหน่วยงานก็จะมีการจัดโครงการ CSR กิจกรรมเพื่อสังคม ทำให้เราได้เห็นถึงความต้องการในสังคมมากขึ้น เมื่อเราเรียนจบ จึงได้หันมาทำงานจิต อาสา ซึ่งเป็นอาสาอิสระที่ไม่ได้ผูกกับองค์กรใด โดยการทำในครั้งนี้ ไม่ใช่ทำโดยหน้าที่อย่างที่เคยเป็น แต่ เป็นการทำเพื่อมีจิต มีเจตนาที่จะทำจริง ๆ โดยไม่ได้หวังผล หรือหวังค่าตอบแทนใดๆ เป็นการทำเพื่อพัฒนา สังคมและส่วนรวมโดยแท้จริง ในครั้งแรกที่มาทำงานจิตอาสาได้สมัครเป็นสมาชิกของ “ธนาคารจิตอาสา” โดยได้ร่วมงานจิตอาสาครั้งแรกกับค่าย “อาสาสมัคร อนุรักษ์สิ่งดีงาม” และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรา อยากจะทำงานจิตอาสาไปตลอดชีวิต ความประทับใจในการทำงานจิตอาสา ไม่ใช่แค่ทำประโยชน์เพื่อ ส่วนรวมอย่างเดียว แต่ยังทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยร่วมงานกันมา ก่อน การปรับตัวเองให้เข้ากับผู้คนรอบข้าง การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงาน ทำให้งานชิ้นนั้น ออกมาอย่างสมบูรณ์ การทำงานจิตอาสาเป็นการพัฒนาตนเอง เสมือนหนึ่งว่าเราได้ปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลา ในกิจกรรมอาสาที่ชอบไป ก็มักจะเป็นการสร้างฝาย ปลูกป่า และยิงเมล็ดพันธุ์พืช ในการไปทำกิจกรรมอาสา ทางด้านทรัพยากรธรรมชาตินั้น ทำให้เรารู้จักคุณค่าของทรัพยากรมากขึ้น และได้เรียนรู้วิธีการสร้างฝาย สร้างยังไงให้ฝายมีความคงทน แข็งแรง ต้านภัยเมื่อถึงฤดูน้ำลาก และกักเก็บน้ำได้อย่างไร เมื่อถึงฤดูแล้ง นั้น คือสิ่งที่สำคัญของการสร้างฝาย สร้างเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และอีกงานที่เราเห็นว่ามีความ จำเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือการปลูกป่าชายเลน ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้อยใหญ่ที่อยู่ตามชายเลน หากเราไม่ มีป่าชายเลน แน่นอนว่าส่งผลกระทบได้หลายส่วน เช่น พื้นแผ่นดินตามแนวฝั่งชายทะเลหายไปแน่นอน และ สัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยตามป่าชายเลนอาจจะสูญพันธุ์หรือย้ายไปหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ ทำให้พื้นที่ชายเลน เหล่านั้นเสื่อมโทรม และประชาชนที่อยู่ตามแนวละแวกชายเลน อาจจะไม่มีแหล่งทำมาหากิน หรือลำบากใน การครองชีพ

จะเห็นได้ว่า เมื่อเราทำงานจิตอาสา สิ่งที่เราได้ ไม่ใช่แค่ความสุข แต่มันคือความเป็นอยู่ของคนใน ประเทศชาติด้วย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อประชากรในประเทศ เพื่อให้มีกินมีใช้ การอนุรักษ์ ก็เหมือนการรักษาหม้อใบใหญ่ จริง ๆ และช่วยพัฒนาจิตใจของตนเองให้เป็นผู้เสียสละอย่างไม่ มีที่สิ้นสุดอีกด้วย

เรื่องเล่าจาก พรพรรณ ปันใจ