เส้นทางสายใจและถนนสายใน(จิตวิญญาณ)เท่านั้น ที่จะพาเราท่านไปพบกับคำตอบของการมีชีวิตที่ดีงาม และความสุขที่แท้….มาร่วมเดินทางธรรมไปกับชัชวาลย์ ทองดีเลิศ นักพัฒนาอาวุโส และอาสาสมัครมอส.รุ่นที่ 2

คนเราเดินทางกันไม่ได้หยุดหย่อน แทบไม่มีเวลาได้หยุดพักกันเลย มีทุนน้อยก็เดินทางไปใกล้ๆ ค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ผู้มีกระเป๋าหนักก็เดินทางข้ามทวีปข้ามโลกกันเลยทีเดียว จับจ่ายใช้สอยกันสนุกมือ

การเดินทางไปเรียนรู้วิถีที่แตกต่างออกไป ทำให้เปรียบเทียบวิถีเขา วิถีเรา บ้านเขาทำกันอย่างนั้นบ้านเราทำอย่างนี้ สร้างข้อคิดดีๆ อยู่ไม่น้อย แต่เท่าที่ทราบ การไปเรียนรู้เรื่องราวดีๆ มีประโยชน์แล้วนำมาใช้ในชีวิตมีไม่มาก ส่วนใหญ่ไปพักผ่อนสนุกสนานสำราญใจกับการซื้อของกันมากกว่า

เส้นทางการก้าวเดินที่โลกปัจจุบันได้วางไว้ เป็นเส้นทางที่เพิ่มพูนความอยาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไปไหนก็อยากได้นั่นอยากได้นี่ อยากสะสมเอาไว้เป็นของตัวเอง ชอบในความสะดวกสบาย ชอบให้คนยกยอปอปั้น ชอบให้คนสิโรราบต่อตนเอง

นี่เป็นความสุขทางโลกที่ไม่มีความแน่นอน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เสื่อมไป เป็นธรรมดาของโลก จะพบความสุขบ้างก็เป็นสุขเพียงชั่วคราว แต่คนเราก็ยังยึดมั่นถือมั่นในสิ่งสมมุติขึ้น สิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน ยึดถือเอาไว้จนหนักอึ้งจึงเป็นทุกข์ มีแต่ความร้อนสุมอยู่ในใจ ไม่มีพลังพอที่จะเดินก้าวข้ามให้พ้นทุกข์ที่มีอยู่ไปได้

การเดินทางที่ไปสู่ความพ้นทุกข์นั้น มีหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาอยู่มากมาย ทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธ จำได้ ท่องได้ แต่ไม่ได้ทำ หรือทำยังไม่ได้ เริ่มจากที่ได้ยินกันบ่อยๆ

“ทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว”


การทำความดี ไม่ต้องถือศีล 227 ข้อที่พระสงฆ์ท่านถือปฏิบัติ คนธรรมดาอย่างเราๆ ขอเพียงศีล 5 ข้อก็เพียงพอ ไม่ฆ่าสัตว์ รวมถึงการไม่ทำร้ายกัน ไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดทรมาน ไม่ลักทรัพย์ น่าจะมีความหมายกว้างถึงการไม่เอารัดเอาเปรียบ คดโกง คอรัปชั่น ไม่พูดปด พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด ให้เกิดเรื่องเกิดราวหลอกลวงใครให้เข้าใจผิด ไม่ประพฤติผิดในกาม มีชู้ มีกิ๊ก ไม่เสพสุรายาเมา บุหรี่ ฝิ่น ยาบ้า

หากทุกคนยึดถือประพฤติปฏิบัติในศีล 5 ข้อนี้ได้ สังคมนี้จะสงบสุขอย่างแน่นอน กฎหมายไม่มีก็ยังอยู่กันได้

การทำใจให้ผ่องแผ้ว จิตใจที่ดีงาม มีสติ รู้ตัวทั่วพร้อม เป็นจิตที่รู้ตัว มีความตื่นและเบิกบานอยู่ตลอดเวลา

อันว่าจิตของคนเรานี้ต้องมีการฝึกฝน ต้องมีการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน ภาวนาเพื่อการเจริญสติ ให้เกิดสมาธิและเกิดปัญญาญาณ การรู้แจ้งในความเป็นไปของชีวิตและสรรพสิ่งในธรรมชาติ

ชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่มีเวลาว่างในการฝึกฝนจิตของตัวเอง เอาเวลาไปดูแลกาย ดูแลสิ่งที่อยู่ภายนอกกาย จนไม่เหลือเวลาดูแลชีวิตภายใน ปล่อยให้ถูกครอบงำ ถูกชักจูงให้วิ่งไปตามกระแสภายนอก

ในโอกาสปีใหม่นี้ ลองหาเวลาเดินทางไปปฏิบัติธรรม เจริญสติภาวนา ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่หลายแห่ง ที่สวนโมกขพลาราม ของท่านพระพุทธทาส, วัดหนองป่าพง ของหลวงพ่อชา สุภัทโท, วัดสนามใน วัดป่าโสมพนัส ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ เป็นต้น

แนวทางปฏิบัติที่ทำให้ก้าวพ้นทุกข์ พระพุทธองค์ทรงให้ไว้ คือ มรรค 8 ความคิดที่ถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เหมือนกับกลัดกระดุมเม็ดแรก ถ้ากลัดถูก เม็ดต่อๆ มาก็จะถูกหมด ถ้ากลัดผิด ก็ผิดตามกันมาทั้งหมด

เมื่อเข้าใจถูกต้อง ก็คิดถูกต้อง เมื่อคิดถูกต้องก็ทำถูกต้อง เมื่อทำถูกต้องก็พูดถูกต้อง เมื่อพูดถูกต้องก็ใช้ชีวิตถูกต้อง ประกอบอาชีพถูกต้อง ความพยายามทุกอย่างไปในทางที่ถูกต้อง จิตใจก็มีแต่ความถูกต้อง ความทุกข์ต่างๆ ก็ดับพ้นไป

การเดินหนทางแห่งธรรมนี้ น่าจะวิเศษสุดในยุคนี้ ยุคที่น้ำมันแพง สังคมขัดแย้ง การบริโภครุนแรง โลกกำลังร้อนแล้ง เส้นทางสายนี้น่าจะช่วยให้มองเห็นกฎธรรมชาติ สัจจะแห่งชีวิต เป็นอิสระไม่ถูกครอบงำ นำพาชีวิตสู่ความสุขที่แท้ ช่วยให้สังคมสงบ มีสันติ ช่วยให้โลกสงบเย็นลงได้

ก้าวเข้ามาสัมผัสกับเส้นทางธรรม เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ผู้ปฏิบัติเท่านั้น จึงจะพบกับคำตอบและความสุขที่แท้

ที่มา มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม