นสพ.โพสต์ทูเดย์  25/10/2007

คลังจูงใจเศรษฐี … บริจาคช่วยสถานศึกษาหักได้ 2 เท่า คลังยกเครื่องภาษีบริจาคสังคมขนานใหญ่ เพิ่มเพดานหักลดหย่อนดึงคนรวยควักเงิน ทำบุญ

นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวว่าได้สั่งการให้กรมสรรพากรตั้งคณะทำงานเพื่อ พิจารณาปรับเพิ่มเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ สังคมให้ได้มากที่สุด เพื่อจูงใจให้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาหันมาบริจาคเงินเพื่อพัฒนาสังคมเพิ่ม มากขึ้น

รมช.คลัง กล่าวว่ามาตรการจูงใจเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี และควรที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมาการเปิดทางให้คนเข้ามาบริจาคเพื่อพัฒนาสังคมน้อยมาก แถมมีปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง

“กระทรวงการคลังต้องการเร่งคลอดมาตรการยกเว้นภาษีบริจาคเพื่อสังคมภายใน สิ้นปีนี้ เพื่อทำให้คนรวยคนมีเงินบริจาคได้มากขึ้น โดยการลดหย่อนภาษีจะดูให้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งช่วยคนจน กลุ่มคนพิการ โรงเรียน สถานศึกษา องค์กรมูลนิธิต่างๆ” นายสมหมาย กล่าว

ปัจจุบันกรมสรรพากรกำหนดเพดานการหักลดหย่อนเงินบริจาคเพื่อสังคมของบุคคล ธรรมดาให้ได้ไม่เกิน 10% ของเงินได้ ส่วนนิติบุคคลนั้นกำหนดไว้ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิ รมช.คลัง กล่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดได้มีมติเห็นชอบภาษีเพื่อสังคม แต่กระทรวงการคลังเห็นว่ามาตรการยังไม่ลงตัว ต้องการให้กรมสรรพากรดูทั้งระบบ เพื่อจะเป็นมาตรการภาษีกระตุ้นให้คนที่มีเงินเหลือใช้อยากทำบุญ

นายสมหมาย กล่าวว่ากระทรวงการคลังต้องการให้คนสามารถเอารายได้ของตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคตไปบริจาคมูลนิธิได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าจะเร่งเสนอมาตรการการบริจาคเงินสดให้กับสถานศึกษาและนำมาลดหย่อน ภาษีจะได้ 2 เท่าให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เป็นการเพิ่มเติมมาตรการเดิมที่ต้องบริจาคเป็นอุปกรณ์การศึกษาเท่านั้น

“การเพิ่มเงื่อนไขการบริจาคเพื่อสังคมให้มากขึ้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่น่ามีปัญหา” นายศานิต กล่าว